วันอาทิตย์ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

ประวัติของมาการอง















มาการอง (Macaron) มีประวัติศาสตรยาวนานหลายร้อยปี และช่วง 5-6 ปีมานี้ ชาวปารีสและเหล่าฟู๊ดดี้ในประเทศโลกเจริญแล้ว ต่างคลั่งไคล้ใหลหลงคุกกี้ชิ้นเล็กๆ กลมๆ 2ชิ้นประกบกัน ตรงกลางมีไส้ หน้าตาเหมือนแฮมเบอร์เกอร์ รสหวาน สีสันสดใส และราคาสูงจนน่าตกใจ และวันนี้ร้านขนมในเมืองไทยหลายร้าน เริ่มผลิตมาการองออกวางขายกันไม่น้อย แม้ผู้บริโภคจะยังไม่ต่อคิวรอซื้อมากินกันเป็นล่ำเป็นสันก็ตาม เป็นขนมที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศฝรั่งเศส

            ในยุคข้าวยากหมากแพง ช่วง Frenchrevolution ที่มีการปฏิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครอง ช่วงนั้นมิชชันนารีชาวอิตาลี ที่อาศัยในฝรั่งเศสหาวิธีทำดำรงชีพจากอัลมอน น้ำตาล และไข่ขาว ซึ่งเป็นของราคาไม่แพง แต่มีคุณค่าทางอาหาร จึงริเริ่มนำสามอย่างนี้มาตีรวมกันและอบในเตาอบ ออกมาเป็นขนมรูปร่างคล้ายจานบิน ด้านนอกกรอบนิดๆ กัดเข้าไปด้านใน ทุกอณูนิ่มละลายในปากทันที ด้วยรสชาติที่หอมหวานลงตัว และวัตถุดิบที่หาง่ายในยุคนั้นราคาไม่แพงมาการองจึงได้รับความนิยมแพร่หลาย

            กระทั่งต่อมามีผู้นำมาการองสองอันมาประกบกันแล้วทำไส้อยู่ตรงกลางซึ่่งเป็นรูปแบขนม macaron ที่รับประทานมาจนทุกวันนี้มาการองยุคใหม่ ถูกปฏิวัติให้เจ๋งยิ่งขึ้นโดยพ่อมดของหวานชาวฝรั่งเศส Piere Herme' ซึ่งนำผลไม้จากทุกมุมโลกมาสร้างสรรค์มาการองรสชาติต่างๆ จนกระทั่งกลายเป็นขนมที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก ปัจจุบันขนมชนิดนี้เป็นทั้งของหวานแสนอร่อย เป็นทั้งแฟชั่น ที่เชฟเทพๆทั้งหลายแข่งกันครีเอตหน้าตา และรสชาติออกมาอย่างสวยงาม


              สำหรับในเมืองไทย  ในขณะที่กิจการร้านน้ำชา กาแฟ และ เบเกอรี่ กำลังบูมกันทั่วไปในทุกฟากฝั่งของถนน  ความนิยมในขนมหวานสัญชาติฝรั่งเศสนี้ก็มีเพิ่มพูนขึ้นเป็นเงาตามตัวเช่นกัน  เพราะ มาการอง ( Macarons ) มีประวัติยาวนานหลายร้อยปีเหมือนเป็นขนมในตำนาน  ไม่เพียงแต่ชาวปารีสเท่านั้นแต่รวมไปถึงเหล่านักทำขนมอบทั้งหลายในหลายประเทศต่างคลั่งไคล้หลงใหลในการทำขนมชนิดนี้  คุกกี้ชิ้นเล็กๆ กลมๆ  สองชิ้นประกบกันตรงกลางมีไส้ลักษณะหน้าตาคล้ายอาหารฝรั่งที่ชื่อ แฮมเบอร์เกอร์  แต่มีขนาดเล็กกว่ามาก  รสหวาน  สีสันสดใสในวันนี้  ร้านขนมเบเกอรี่ชั้นนำในเมืองไทยหลายแห่ง เริ่มหันทำขนมมาการองนี้ออกวางขายกัน  ถึงแม้ผู้บริโภคจะยังไม่ถึงกับต่อแถวรอซื้อ  แต่ผู้ที่ทำขนมนี้ได้อร่อยและงดงามน่ารับประทานเช่นเจ้าของต้นตำหรับดั้งเดิมสามารถที่จะยึดถือเป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้ให้แก่ตัวคุณเองได้




                  

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น